หลายคนอาจเคยเจอปัญหานอนตะแคงแล้วปวดหลัง หรือตื่นเช้ามาพร้อมอาการเมื่อยล้าโดยไม่รู้สาเหตุ แท้จริงแล้วเรื่องนี้อาจมาจากการนอนผิดท่า ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อแนวกระดูกสันหลังและกล้ามเนื้อ การเลือกท่านอนแก้ปวดหลังจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดแรงกด ลดอาการปวดเมื่อย และทำให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ บทความนี้จะพาคุณมาดูท่านอนที่ถูกต้องที่แพทย์แนะนำ พร้อมเคล็ดลับเล็ก ๆ ที่ช่วยให้ตื่นเช้ามาแบบไม่ปวดหลังอีกต่อไป
Key Takeaways
- การเลือกท่านอนแก้ปวดหลังที่เหมาะสม เช่น นอนหงายพร้อมหมอนรองเข่า หรือนอนตะแคงพร้อมหมอนระหว่างขา ช่วยลดแรงกดและอาการปวดหลังตอนนอน
 - การปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การนั่งที่ถูกต้อง ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ และควบคุมน้ำหนักตัว มีส่วนช่วยป้องกันอาการปวดหลังสะสม
 - การใช้นวัตกรรมสุขภาพ เช่น เก้าอี้ปรับนอนหรืออุปกรณ์รองรับสรีระ Ergonomic ช่วยให้กล้ามเนื้อหลังผ่อนคลายและลดอาการนอนแล้วปวดหลังส่วนล่าง
 - อาการปวดหลังจากการนอนผิดท่าหรือความเมื่อยล้ามักดีขึ้นเองได้ แต่หากปวดรุนแรงต่อเนื่องหรือมีอาการชา ร้าว ควรปรึกษาแพทย์
 
นอนแล้วปวดหลัง เกิดจากอะไร
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมถึงนอนแล้วปวดหลังทั้งที่ไม่ได้ทำงานหนัก สาเหตุหลักมักมาจากการนอนในท่าที่ไม่เหมาะสม ซึ่งทำให้แนวกระดูกสันหลังโค้งผิดธรรมชาติและเกิดแรงกดทับต่อกล้ามเนื้อโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะผู้ที่นอนหงายแล้วปวดหลัง มักเกิดจากที่นอนแข็งหรือยวบเกินไปจนกล้ามเนื้อหลังต้องทำงานตลอดเวลา อีกทั้งอาการออฟฟิศซินโดรม จากการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานก็ยิ่งเพิ่มความตึงตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้หลังไม่สามารถคลายตัวได้แม้ขณะนอนหลับ
การเลือกท่านอนแก้ปวดหลังที่ช่วยรองรับแนวกระดูกให้สมดุลจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะช่วยลดแรงกด ลดความเมื่อยล้า และทำให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ การใส่ใจเรื่องการดูแลสุขภาพ ตั้งแต่พฤติกรรมการนั่ง การนอน ไปจนถึงการเลือกที่นอนและหมอนที่เหมาะสม จะช่วยให้หลังฟื้นตัวดีขึ้นและลดอาการปวดได้ในระยะยาว
รวมท่านอนแก้ปวดหลัง ทำได้อย่างไรบ้าง

การปรับมาใช้ท่านอนแก้ปวดหลังที่ถูกหลักสามารถช่วยให้กระดูกสันหลังอยู่ในแนวตรง ลดแรงกดและความตึงของกล้ามเนื้อได้จริง สำหรับใครที่พยายามหาวิธีนอนยังไงไม่ให้ปวดหลัง ลองดู 3 ท่านอนต่อไปนี้ ที่รับรองว่าจะช่วยบรรเทาอาการได้ดี
1. ท่านอนหงาย ใช้หมอนหนุนเข่า
ท่านี้เป็นท่านอนแก้ปวดหลังที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาปวดหลังเวลานอนหงาย เพราะการวางหมอนรองใต้เข่าจะช่วยยกส่วนขาให้สูงขึ้นเล็กน้อย ช่วยกระจายน้ำหนักตัวให้เท่ากัน ลดแรงกดบริเวณเอวและหลังส่วนล่าง ทำให้กระดูกสันหลังอยู่ในแนวธรรมชาติและกล้ามเนื้อหลังได้พักอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการปวดที่เกิดจากหมอนรองกระดูกเคลื่อนหรือกล้ามเนื้อตึงสะสม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องการท่าแก้ปวดหลัง ก่อนนอนเพื่อคลายเมื่อยหลัง
2. ท่านอนตะแคงข้าง ขาก่ายหมอน
ท่านอนนี้จะช่วยลดแรงกดบริเวณเอวและสะโพกได้ดี คือการนอนตะแคงงอเข่าเล็กน้อยและมีหมอนรองระหว่างขา ท่านี้จะช่วยให้แนวกระดูกสันหลังตรง ลดแรงบิดที่เกิดจากการนอนตะแคงเพียงด้านเดียว เหมาะสำหรับผู้ที่รู้สึกนอนแล้วปวดหลังช่วงเอว หรือตึงบริเวณสะโพกด้านข้าง การใช้หมอนรองระหว่างขาจะช่วยกระจายน้ำหนัก ทำให้หลังและกล้ามเนื้อได้พักผ่อนอย่างสบายตลอดคืน
3. ท่านอนคว่ำ หมอนหนุนอกและสะโพก
แม้ท่านอนคว่ำจะไม่ใช่ท่าที่เหมาะกับทุกคน แต่สามารถปรับให้เป็นท่านอนแก้ปวดหลังได้ โดยใช้หมอนขนาดเล็กหนุนบริเวณหน้าอกและสะโพก เพื่อช่วยลดการแอ่นของกระดูกสันหลัง ท่านี้เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาปวดจากกล้ามเนื้อหลังตึงหรือไหล่ล้า เพราะช่วยให้หลังได้คลายตัวและลดการกดทับบริเวณเอว หากรู้สึกปวดหลังมากนอนไม่ได้ ท่านอนคว่ำที่ปรับอย่างถูกวิธีก็อาจช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายขึ้นได้
รวมทริคการนอน ลดโอกาสเกิดอาการปวดหลัง

อาการปวดหลังไม่เพียงเกิดจากการนอนผิดท่า แต่ยังเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน การดูแลหลังให้แข็งแรงจึงต้องใส่ใจในหลายด้าน ตั้งแต่การนอนหลับท่านั่ง ไปจนถึงการเคลื่อนไหวในแต่ละวัน เพื่อให้หลังได้พักและลดการสะสมของความตึงบริเวณหลังได้
1. การเลือกหมอนที่พอดี
หมอนที่ดีควรรองรับแนวศีรษะและคอให้ตรงกับแนวกระดูกสันหลัง ไม่สูงหรือต่ำเกินไป เพื่อป้องกันการเกร็งของกล้ามเนื้อและลดแรงกดบริเวณต้นคอ ช่วยให้นอนหลับสบายและลดอาการปวดหลังได้ในระยะยาว
2. การเลือกที่นอนที่รองรับสรีระ
การเลือกที่นอนที่รองรับสรีระได้อย่างเหมาะสมมีส่วนสำคัญในการลดโอกาสเกิดอาการปวดหลัง เพราะช่วยกระจายน้ำหนักของร่างกายอย่างสมดุล ทำให้กระดูกสันหลังอยู่ในแนวธรรมชาติระหว่างการนอน ไม่โค้งงอหรือบิดตัวเกินไป ที่นอนที่ดีควรมีความแน่นพอที่จะพยุงช่วงเอวและหลังส่วนล่าง แต่ยังคงให้ความนุ่มสบายเพื่อรองรับไหล่และสะโพกได้อย่างพอดี จึงช่วยลดความตึงและความเมื่อยสะสมเมื่อตื่นนอน และส่งผลให้นอนหลับได้ลึกและมีคุณภาพมากขึ้น
สำหรับผู้ที่มองหานวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อการพักผ่อน ลองใช้เก้าอี้ปรับนอน จาก Ollu Thailand ด้วยดีไซน์ที่รองรับสรีระและสามารถปรับท่านั่งได้กว่า 6 ท่า ตามหลัก Ergonomic ช่วยลดความเมื่อยล้าและส่งเสริมสุขภาพของผู้ใช้งาน เหมาะสำหรับทั้งบ้าน คอนโด และออฟฟิศ ถือเป็นนวัตกรรมสุขภาพ ที่ตอบโจทย์ทั้งดีไซน์และฟังก์ชัน เพื่อการนวดผ่อนคลายและลดอาการปวดหลังได้อย่างลงตัว
นอกจากนี้ เก้าอี้รุ่น FLOW ยังโดดเด่นด้วยโหมด Deep Rest Mode ที่ช่วยให้ร่างกายอยู่ในท่านอนที่สมดุลที่สุด รองรับแนวกระดูกสันหลังด้วยระบบถุงลมหนุนหลังให้ตรงตามสรีระ และยังมีโหมดอื่น ๆ ที่น่าสนใจ อย่าง Zero Gravity Mode ที่จำลองท่านอนแบบไร้น้ำหนัก ช่วยกระจายแรงกดไปทั่วร่างกาย ให้รู้สึกเบาสบายเหมือนลอยอยู่ในอากาศ
3. การควบคุมน้ำหนักตัว
การมีน้ำหนักตัวที่เกินมาตรฐานหรือผู้ที่มีค่า BMI (Body Mass Index) อยู่ที่ 23 ขึ้นไป จะถูกประเมินว่าเป็นภาวะที่ร่างกายมีน้ำหนักมากกว่าช่วงที่เหมาะสมตามส่วนสูง อาจทำให้กระดูกสันหลังต้องรับภาระมากขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการนอนปวดหลังหรือรู้สึกตึงเมื่อพักผ่อน การควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติจึงช่วยลดแรงกด ลดภาระของกล้ามเนื้อ และป้องกันอาการปวดหลังจากการใช้งานร่างกายเกินจำเป็น
4. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน
หลายคนที่นอนผิดท่าแล้วปวดหลัง มักไม่รู้ว่ามาจากพฤติกรรมซ้ำ ๆ ระหว่างวัน เช่น การนั่งใน ท่านั่ง เดิมนานเกินไป ควรลุกขยับหรือเปลี่ยนอิริยาบถทุก 30 นาที รวมถึงจัดโต๊ะทำงานให้เหมาะกับแนวกระดูกสันหลัง เพื่อช่วยลดความตึงของกล้ามเนื้อและป้องกันอาการปวดสะสมเมื่อต้องนอนพักผ่อน
5. การออกกำลังกายยืดเหยียดอย่างสม่ำเสมอ
การยืดเหยียดกล้ามเนื้อหลัง สะโพก และเอวทุกวันช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ลดความแข็งตึงของกล้ามเนื้อ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีอาการปวดหลังตอนนอน หรือรู้สึกไม่สบายหลังจากการนอนเป็นเวลานาน การออกกำลังกายเบา ๆ ก่อนนอนยังช่วยให้หลับสบายและลดโอกาสการปวดหลังสะสมในระยะยาว
นอนแล้วปวดหลังแบบไหน ที่ควรรีบรักษา
หลายคนอาจเคยเจอปัญหานอนเยอะปวดหลัง ตื่นเช้ามาพร้อมความเมื่อยล้า อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ไม่ใช่แค่การพักผ่อนให้มากขึ้นเท่านั้น การสังเกตและปรับพฤติกรรมตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยลดความเสี่ยงของอาการเรื้อรังและทำให้หลังกลับมาดีขึ้น
- ปวดหลังรุนแรงหลังตื่นนอนต่อเนื่องหลายวัน
 - ปวดหลังบริเวณเอวหรือสะโพกขณะเปลี่ยนท่า หรือรู้สึกเจ็บเวลาไอ จาม
 - มีอาการชาหรือเจ็บร้าวลงขา ร่วมกับอาการ นอนแล้วปวดหลัง
 - ปวดหลังบ่อยจนกระทบการนอนหลับ ทำให้ต้องตื่นกลางคืน หรือท่านอนแก้ปวดหลังแบบเดิมก็ไม่ช่วยบรรเทา
 - รู้สึกหลังติดหรือเกร็งเวลาลุกจากเตียง แม้ไม่ได้ทำงานหนัก
 
ท่านอนแก้ปวดหลัง เคล็ดลับนอนหลับสบายทุกคืน ลืมอาการปวดหลัง
การเลือกท่านอนแก้ปวดหลังที่เหมาะสมช่วยลดอาการปวดหลังและเพิ่มคุณภาพการพักผ่อน ควบคู่กับการปรับพฤติกรรมและดูแลสรีระในชีวิตประจำวัน สำหรับผู้ที่ต้องการนวัตกรรมเพื่อการพักผ่อนเต็มรูปแบบ เก้าอี้ปรับนอนจาก Ollu Thailand รุ่น FLOW เป็นตัวช่วยที่ตอบโจทย์ ด้วยดีไซน์รองรับสรีระและปรับท่านั่งได้หลายระดับตามหลัก Ergonomic พร้อม 6 โหมดเพื่อการพักผ่อนที่หลากหลาย ทำให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย คลายกล้ามเนื้อและลดอาการปวดหลัง เหมาะสำหรับบ้าน คอนโด หรือออฟฟิศ ช่วยให้ทุกช่วงเวลาของการพักผ่อนมีคุณภาพ
ติดต่อสอบถาม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่
- Website : https://olluthailand.com/
 - Line : @olluthailand
 - Facebook : olluthailand
 - Instagram : olluthailand
 - Tel : 02-7399570
 
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับท่านอนแก้ปวดหลัง
ท่านอนที่ถูกต้องเป็นอย่างไร?
ท่านอนที่ถูกต้องควรรักษาแนวกระดูกสันหลังให้ตรงและสมดุล ใช้หมอนรองคอที่พอดีกับแนวคอและไหล่ เพื่อลดแรงกดบนหลังส่วนล่าง ที่นอนควรมีความแน่นพอสมควรเพื่อรองรับสรีระแต่ไม่แข็งเกินไป การปรับท่านอนอย่างเหมาะสมจะช่วยลดอาการปวดหลังและทำให้กล้ามเนื้อหลังได้พักอย่างเต็มที่
นอนตะแคงหรือนอนหงาย แบบไหนดีกว่ากัน?
ทั้งสองท่ามีข้อดีแตกต่างกัน หากคุณมีปัญหานอนแล้วปวดหลังช่วงเอว การนอนหงายพร้อมหมอนรองเข่าจะช่วยลดแรงกดบนหลังส่วนล่าง ส่วนการนอนตะแคงสามารถใช้หมอนรองระหว่างขาเพื่อลดแรงบิดของสะโพกและกระดูกสันหลัง การเลือกท่านอนแก้ปวดหลังที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความสบายของร่างกายและอาการปวด
นอนแล้วปวดหลังล่าง หายเองได้ไหม?
อาการปวดหลังส่วนล่างที่เกิดจากความเมื่อยล้าหรือนอนผิดท่า มักสามารถดีขึ้นได้เอง หากปรับพฤติกรรมการนอน แต่ถ้าอาการปวดรุนแรงต่อเนื่องมากกว่า 1-2 สัปดาห์ หรือมีอาการชา ร้าวลงขา หรือปวดจน นอนไม่ได้ ควรปรึกษาแพทย์ทันที
