ในโลกที่หมุนเร็วเกินไป การหาเวลารีแล็กซ์ ผ่อนคลาย ไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่คือความจำเป็นเพื่อรักษาสุขภาพกายและสุขภาพจิตให้แข็งแรง บทความนี้จะชวนคุณมาทำความเข้าใจว่าการผ่อนคลายส่งผลดีต่อทั้งประสิทธิภาพการทำงานและคุณภาพชีวิตอย่างไร พร้อมแนะนำ 10 วิธีง่าย ๆ ที่คุณสามารถนำไปใช้ได้ทันที เพื่อฟื้นฟูพลังงาน ลดความเครียด และสร้างความสมดุลที่ดีให้กับตัวเองในทุกวัน
Key Takeaways
- การรีแล็กซ์ ผ่อนคลาย เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดความเครียด ทำให้สมองได้ “รีบูต” ส่งผลให้ โฟกัสกับงานได้ดีขึ้น และเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหา
 - การรีแล็กซ์ ผ่อนคลาย ช่วยให้การนอนหลับมีคุณภาพ ปรับสมดุลอารมณ์ และสร้างความสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงาน นำไปสู่การมี Longevity และสุขภาพที่ดี ในระยะยาว
 - ควรเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์เพื่อเพิ่มเซโรโทนิน และหลีกเลี่ยงคาเฟอีนเพื่อไม่ให้ร่างกายตื่นตัวและวิตกกังวลเกินไป
 - การฝึกกำหนดลมหายใจ หรือทำโยคะ ช่วยกระตุ้นระบบประสาทพาราซิมพาเทติก ช่วยให้หัวใจเต้นช้าลงและร่างกายเข้าสู่ภาวะสงบ
 
การรีแล็กซ์ ผ่อนคลาย ดีอย่างไร
การรีแล็กซ์ ผ่อนคลาย มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตโดยรวม การให้เวลาตัวเองได้พักผ่อนช่วย ลดระดับความเครียด และความเหนื่อยล้าทางจิตใจ ซึ่งทำให้เราสามารถโฟกัสกับงานได้ดีขึ้น และ เพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจ ในแง่มุมของการทำงาน การผ่อนคลายช่วยให้สมองได้ “รีบูต” ทำให้เกิด ความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ และ แก้ปัญหาได้ดีขึ้น เมื่อกลับไปทำงาน
การรีแล็กซ์ยังส่งผลดีต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตอย่างมาก เช่น ช่วย ให้การนอนหลับมีคุณภาพมากขึ้น และปรับสมดุลอารมณ์ที่ดี การใช้เวลาผ่อนคลายกับกิจกรรมที่เราชื่นชอบยังช่วยสร้างความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว ซึ่งนำไปสู่การมีความสุขและสุขภาพดี มี Longevity ในระยะยาว
10 วิธีรีแล็กซ์ ผ่อนคลาย ทำได้ง่าย ๆ บำรุงสุขภาพทั้งกายและใจ
ในยุคที่ชีวิตเต็มไปด้วยความเร่งรีบและความกดดัน การดูแลสุขภาพจิตและกายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ การผ่อนคลายที่ถูกต้องไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานหรือมีค่าใช้จ่ายสูง แต่เริ่มต้นได้จากพฤติกรรมง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถฟื้นฟูพลังงาน ลดความเครียด และสร้างสมดุลให้กับชีวิตได้อย่างยั่งยืน มาดูวิธีแก้เครียดง่าย ๆ ทำเองได้ทุกวัน ดังนี้
1. เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์

การรับประทานอาหารที่ครบถ้วนและมีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ และธัญพืช ส่งผลดีต่อสุขภาพจิตอย่างมาก เพราะอาหารบํารุงสมองคลายเครียดที่มีสารอาหารที่ดี ช่วยให้ร่างกายผลิตเซโรโทนิน (Serotonin) หรือสารสื่อประสาทแห่งความสุขได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยให้อารมณ์คงที่ และลดความเครียดทางกาย ได้ดีขึ้น ในอาหารคลายเครียดควรมีปลาที่มีไขมันดีหรือถั่วในมื้ออาหารของคุณ
2. กำหนดลมหายใจก่อนนอน

วิธีผ่อนคลายความเครียดถัดมาคือการฝึกกำหนดลมหายใจอย่างช้า ๆ และลึก ๆ บนเก้าอี้พักผ่อนก่อนเข้านอน เป็นเทคนิคที่ทรงพลังมากต่อระบบประสาท ช่วยกระตุ้นระบบประสาทพาราซิมพาเทติกให้ทำงาน ซึ่งเป็นระบบที่รับผิดชอบการพักผ่อนและการย่อยอาหาร ทำให้หัวใจเต้นช้าลง และร่างกายเข้าสู่ภาวะผ่อนคลาย เตรียมพร้อมสำหรับการนอนหลับที่มีคุณภาพ และลดความกังวล
การฝึกกำหนดลมหายใจจะยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อทำบนเก้าอี้รุ่น FLOW จาก Ollu Thailand เก้าอี้ปรับนอนที่ใช้เป็นเตียงรองรับท่านอนได้ ด้วยฟังก์ชันพิเศษที่มาพร้อมถุงลมและระบบที่ช่วยกำหนดลมหายใจ ให้คุณฝึกทำสมาธิได้อย่างลึกซึ้ง และยังมาพร้อมโหมด Brain Boost Mode ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง ให้คุณได้ทั้งพักผ่อนและเตรียมสมองให้พร้อมในคราวเดียว
3. ทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวเอง

การใช้เวลานั่งบนเก้าอี้ Recliner สักพักเพื่อทบทวนความรู้สึกและความคิดของตนเอง เป็นอีกหนึ่งวิธีคลายเครียดที่ช่วยให้คุณรับรู้และจัดการกับอารมณ์ด้านลบได้อย่างมีสติ การทำความเข้าใจตัวเองว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้เครียดและอะไรที่ทำให้มีความสุข จะช่วยลดความสับสนทางจิตใจ และทำให้คุณสามารถเลือกกิจกรรมผ่อนคลายที่ตรงกับความต้องการของตัวเองได้อย่างแท้จริง
4. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน

วิธีทำให้หายเครียดที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง นั่นคือการหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เพราะคาเฟอีนเป็นสารกระตุ้นที่เพิ่มการหลั่งของอะดรีนาลีน ทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะตื่นตัวและอาจเพิ่มความรู้สึกวิตกกังวล การหลีกเลี่ยงหรือลดการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน โดยเฉพาะในช่วงบ่ายและเย็น จะช่วยให้ ระบบประสาทไม่ถูกกระตุ้นมากเกินไป ทำให้ร่างกายรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย และหลับได้ง่ายขึ้น
5. ไม่เล่นโทรศัพท์ หรือรับสายขณะพักผ่อน

หากรู้สึกเหนื่อยงาน ทำงานเหนื่อยจนไม่มีเวลาพัก การตัดขาดจากหน้าจอและงานระหว่างเวลาพักผ่อนเป็นการให้สมองได้พักจากการประมวลผลข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แสงสีฟ้าจากหน้าจอส่งผลต่อการหลั่งเมลาโทนิน ทำให้คุณภาพการนอนลดลง ฮีลใจตัวเองด้วยการกำหนดเวลาที่ไม่แตะโทรศัพท์จะช่วยให้จิตใจสงบลงอย่างแท้จริง ลดความกดดันจากการติดต่อสื่อสาร และทำให้การพักผ่อนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
6. อ่านหนังสือที่สนใจ

การอ่านหนังสือที่คุณชอบเป็นวิธีทําให้หายเครียดผ่านการพาจิตใจออกไปจากความเครียดในชีวิตจริงชั่วขณะ ถือเป็นการผ่อนคลายจิตใจที่ดีเยี่ยม ช่วยให้สมองได้โฟกัสอยู่กับเรื่องราวเดียว ทำให้ความวิตกกังวลลดลง และสามารถลดอัตราการเต้นของหัวใจได้อย่างเป็นธรรมชาติ เลือกอ่านนิยาย หนังสือพัฒนาตนเอง หรือเรื่องตลกที่คุณสนใจก่อนนอน แล้วเปิดอ่านได้เลย
มาเพิ่มประสิทธิภาพวิธีคลายความเครียด ช่วยให้ช่วงเวลาแห่งการอ่านของคุณผ่อนคลายอย่างแท้จริง ลองใช้ FLOW จาก Ollu Thailand เก้าอี้พักผ่อนที่ออกแบบรองรับท่านั่งตามหลักสรีรศาสตร์ ด้วย โหมด Zero Gravity Mode ที่ช่วยกระจายน้ำหนักตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้คุณสามารถนั่งอ่านหนังสือได้ในระยะยาวโดยไม่ปวดเมื่อยหลัง ช่วยให้การพักผ่อนเต็มอิ่มยิ่งขึ้น
7. ฟังเพลง

ดนตรีมีอิทธิพลโดยตรงต่ออารมณ์และร่างกาย วิธีผ่อนคลายความเครียดด้วยการฟังเพลงประเภทคลาสสิก หรือเพลงบรรเลงที่มีความเร็วต่ำจะช่วย กระตุ้นการหลั่งสารโดปามีน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข ทำให้ร่างกายรู้สึกสงบ และ ลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล (ฮอร์โมนความเครียด) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลองสร้างเพลย์ลิสต์เพลงผ่อนคลายไว้สำหรับช่วงพักเบรก
8. ทำโยคะ ผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ

โยคะเป็นการผสมผสานระหว่างการเคลื่อนไหว การหายใจ และสมาธิ ซึ่งช่วยคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ ที่สะสมจากความเครียด การฝึกท่าโยคะเบา ๆ จะช่วยให้เพิ่มการไหลเวียนของออกซิเจนไปสู่สมอง ทำให้จิตใจปลอดโปร่ง Relax คลายเครียด ลดความฟุ้งซ่าน และสร้างความรู้สึกสงบจากภายในสู่ภายนอก เลือกทำโยคะท่าบริหารแก้ปวดหลังเพื่อช่วยลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้ออย่างมีประสิทธิภาพ หรือหากปวดเมื่อยจากการทำงานหนัก ก็ลองไปนวดผ่อนคลายได้เช่นกัน
หลังจากจบการฝึกโยคะและการนวดผ่อนคลายแล้ว ลองใช้เก้าอี้รุ่น FLOW เก้าอี้ปรับนอนที่สามารถปรับเป็นเตียงโยคะได้ ด้วยถุงลมพร้อมระบบกำหนดลมหายใจที่ใช้ในการผ่อนคลายหลังทำโยคะเสร็จ และโหมด Deep Rest Mode ที่ช่วยให้คุณได้อยู่ในโยคะท่าศพอาสนะ (Savasana) ในสภาวะที่สมบูรณ์แบบและลึกซึ้งที่สุด
9. เพิ่มกลิ่นหอมอโรมาในห้องนอน

รีแล็กซ์ ผ่อนคลายไปกับกลิ่นหอมบำบัด หรืออโรมาเธอราปี กลิ่นที่มีผลต่อระบบประสาทที่ควบคุมอารมณ์โดยตรง กลิ่นลาเวนเดอร์ช่วยให้ คลื่นสมองเข้าสู่สภาวะสงบ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายอย่างรวดเร็ว และช่วยบรรเทาอาการนอนไม่หลับได้ดี การใช้เครื่องพ่นไอน้ำหรือทาออยล์อโรมาที่ขมับก่อนนอนเป็นวิธีที่ง่ายมาก
10. หาเวลาให้กับตัวเอง

การมี “Me Time” คือวิธีแก้เครียดด้วยการจัดสรรเวลาให้ตัวเองทำในสิ่งที่ชอบโดยไม่มีภาระผูกพันใด ๆ เป็นการ เติมเต็มพลังใจ และสร้างขอบเขตที่ดีกับเรื่องงานหรือเรื่องของคนอื่น ลดอาการเหนื่อยกับงาน ซึ่งช่วยป้องกันภาวะหมดไฟ (Burnout) ลองทำกิจกรรมที่ทำให้คุณมีความสุข เช่น การวาดรูป ทำสวน นวด หรือแค่นั่งจิบกาแฟเงียบ ๆ คนเดียว
รีแล็กซ์ ผ่อนคลาย พักกาย พักใจ เพื่อรีเฟรชวันใหม่ที่มีประสิทธิภาพ
การรีแล็กซ์ ผ่อนคลายเป็นส่วนสำคัญของการมีสุขภาพดีในระยะยาว การทำกิจกรรมง่าย ๆ 10 ข้อนี้จะช่วยลดความเครียด เพิ่มคุณภาพการนอนหลับ และฟื้นฟูพลังงานทั้งกายและใจได้อย่างยั่งยืน หากไม่สามารถทำทั้งหมดได้ในคราวเดียว แนะนำให้เริ่มต้นจากการทำอะไรง่าย ๆ อย่างการหาเวลาให้กับตนเอง หยิบหนังสือสักเล่มมาอ่าน จากนั้นจึงค่อยขยับมาทำกิจกรรมที่ต้องใช้สกิลอย่างการทำอาหารสุขภาพกินเองก็ได้
เก้าอี้จาก Ollu Thailand รุ่น FLOW เป็นเก้าอี้พักผ่อนเพื่อสุขภาพที่ถูกออกแบบมาเพื่อการผ่อนคลายอย่างแท้จริง ด้วย 6 โหมดที่หลากหลาย เช่น Zero Gravity เพื่อลดแรงกดทับของร่างกาย Deep Rest เพื่อการนอนหลับลึก และ Brain Boost ที่รองรับการทำสมาธิ ช่วยให้คุณผ่อนคลายร่างกายและจิตใจได้อย่างมีประสิทธิภาพครบทุกมิติ
ติดต่อสอบถาม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่
- Website : https://olluthailand.com/
 - Line : @olluthailand
 - Facebook : olluthailand
 - Instagram : olluthailand
 - Tel : 02-7399570
 
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับรีแล็กซ์ ผ่อนคลาย
เครียดลงกระเพาะ กินอะไรดี
เมื่อเครียดลงกระเพาะ ควรเลือกอาหารที่ย่อยง่ายและไม่กระตุ้นกรด เช่น ข้าวต้ม หรือ โจ๊ก รวมถึงกล้วย มันฝรั่งต้ม และขิงที่ช่วยลดอาการคลื่นไส้ ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เผ็ดเปรี้ยว หรืออาหารที่มีไขมันสูง และเน้นดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำสมุนไพรที่ไม่เติมน้ำตาล
ฮีลใจตัวเอง คืออะไร
ฮีลใจตัวเอง คือการเยียวยาจิตใจและอารมณ์ของตนเองจากความเหนื่อยล้าหรือความเจ็บปวด โดยการให้ความเมตตา เข้าใจ และยอมรับในความรู้สึกของตัวเอง รวมถึงการทำกิจกรรมที่ช่วย เติมเต็มพลังบวก และสร้างความสมดุลในชีวิต เช่น การพักผ่อน การออกกำลังกาย หรือการทำสมาธิ
กินอะไรให้สดชื่นได้บ้าง
การเลือกกินผลไม้ที่มีน้ำมากและรสชาติสดชื่น เช่น แตงโม ส้ม สับปะรด หรือน้ำมะพร้าว จะช่วยคืนความสดชื่นและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับร่างกาย เครื่องดื่มสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมอย่างน้ำใบเตย หรือชาเปปเปอร์มินต์ ก็ช่วย กระตุ้นความตื่นตัว และลดความเหนื่อยล้าได้ดี
