อาการปวดหลังกำลังทำให้พบปัญหาในการใช้ชีวิตอยู่หรือเปล่า? ไม่ว่าจะนั่งทำงานนาน ๆ หรือแม้แต่ตอนพักผ่อนก็ยังปวดเมื่อยไม่หาย! แต่รู้ไหมว่าการเลือกเก้าอี้แก้ปวดหลังตัวที่ใช่ อาจเป็นคำตอบสำคัญที่เปลี่ยนชีวิตการนั่งทำงานได้
บทความนี้จะพาไปค้นพบคำตอบว่าเก้าอี้แบบไหนนั่งแล้วไม่ปวดหลัง และทำไมเก้าอี้ปรับนอนแบบ Zero Gravity Chair ถึงเป็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนโลกแห่งการพักผ่อน เตรียมพบกับสุดยอดเก้าอี้นั่งสบาย ไม่ปวดหลัง แถมยังลดอาการปวดเมื่อยได้จริง
Key Takeaways
- เก้าอี้แก้ปวดหลังที่ดีจริงต้องออกแบบตามหลักการยศาสตร์ มีพนักพิงโค้งรับรูปร่างหลังตามธรรมชาติ และปรับแต่งได้หลากหลายมุม เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของแต่ละคน
- เก้าอี้ทำงานแก้ปวดหลังที่ครบเครื่องควรมีฟังก์ชันปรับความสูง เอนพนักพิง มีที่พักแขน และรองรับส่วนหลังส่วนล่าง ช่วยให้ทำงานได้ยาวนานโดยไม่เมื่อยล้า
- Zero Gravity Chair คือตัวช่วยดี ๆ ที่ช่วยกระจายน้ำหนักตัวอย่างสมดุลเหมือนลอยอยู่ในอากาศ ลดแรงกดที่หลัง เหมาะกับการพักผ่อนและฟื้นฟูร่างกาย
เก้าอี้แก้ปวดหลัง สำคัญอย่างไร
รู้ไหมว่าการนั่งเก้าอี้ที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน ๆ อาจสร้างปัญหาให้กับสุขภาพมากกว่าที่คิด การเลือกเก้าอี้แก้ปวดหลังที่เหมาะสมไม่ใช่แค่เรื่องของความสะดวกสบาย แต่ยังเกี่ยวข้องกับสุขภาพในระยะยาวอีกด้วย มาดูกันว่าสำคัญยังไงบ้าง
- ช่วยป้องกันปัญหากระดูกสันหลัง : เก้าอี้ที่ออกแบบมาดีจะช่วยรองรับโครงสร้างธรรมชาติของกระดูกสันหลัง ป้องกันไม่ให้กระดูกและข้อต่อเสื่อมเร็วก่อนวัยอันควร
- ปรับท่านั่งให้ถูกต้อง : การนั่งในท่าที่ไม่ถูกต้องเป็นเวลานาน ๆ อาจทำให้ปวดหลัง ปวดคอ ปวดไหล่ เก้าอี้ที่ดีจะช่วยรักษาท่านั่งที่ถูกวิธีได้
- ทำงานได้มีประสิทธิภาพขึ้น : เมื่อร่างกายไม่ปวดเมื่อย สมองก็ทำงานได้ลื่นขึ้น สมาธิดีขึ้น มีพลังงานเพิ่มขึ้น
- บรรเทาอาการปวดหลังเรื้อรัง : ถ้ามีปัญหาปวดหลังอยู่แล้ว เก้าอี้นั่งทำงานที่เหมาะสมจะช่วยลดอาการปวดหลัง และไม่ให้อาการแย่ลงไปอีก
- เหมาะกับทุกวัย : โดยเฉพาะเก้าอี้ผู้สูงอายุหรือเก้าอี้นั่งสบายสำหรับผู้สูงอายุจะออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการ ช่วยให้ลุกนั่งได้ง่ายและปลอดภัยมากขึ้น
เลือกเก้าอี้แก้ปวดหลังอย่างไรดี

การหาเก้าอี้แก้ปวดหลังที่ใช่นั้นไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป แค่รู้ว่าต้องดูอะไรบ้างก็จะทำให้เลือกเก้าอี้นั่งทำงานแล้วไม่ปวดหลังที่ดีที่สุดสำหรับตัวเองแล้ว มาดูเทคนิคการเลือกกันว่ามีอะไรบ้าง
1. เลือกเก้าอี้ที่ออกแบบตามหลักการยศาสตร์
เก้าอี้แก้ปวดหลังที่ดีต้องออกแบบตามหลัก Ergonomic หรือหลักการยศาสตร์ ซึ่งหมายถึงเก้าอี้ที่เข้าใจสรีระร่างกายจริง ๆ มีพนักพิงที่โค้งตามส่วนโค้งธรรมชาติของกระดูกสันหลัง โดยเฉพาะบริเวณหลังส่วนล่าง ช่วยรองรับและลดแรงกดทับ ป้องกันอาการปวดหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ควรมีที่พักแขนที่ปรับระดับได้ เพื่อลดความเครียดของกล้ามเนื้อบริเวณคอและไหล่
2. เลือกเก้าอี้ที่ปรับระดับได้
ความยืดหยุ่นคือกุญแจสำคัญ เก้าอี้ที่นั่งทำงานแล้วไม่ปวดหลังต้องปรับแต่งได้หลากหลาย เริ่มจากความสูงของที่นั่งที่ต้องปรับระดับได้เพื่อให้วางเท้าบนพื้นได้เต็มฝ่าเท้า และเข่างอทำมุมประมาณ 90 องศา มุมเอนของพนักพิงก็ควรปรับได้ ที่วางแขนควรปรับความสูงและมุมได้ตามต้องการ บางคนอาจต้องการเก้าอี้ปรับนอนตามองศาเอนได้หลายระดับ เพื่อให้เปลี่ยนท่านั่งได้ตลอดวัน
3. เลือกเก้าอี้ที่มีฟังก์ชั่นตอบโจทย์
ทุกคนมีความต้องการที่ไม่เหมือนกัน บางคนต้องนั่งทำงานต่อเนื่องนาน ๆ อาจเลือกเก้าอี้แก้ปวดหลังที่เหมาะกับการใช้งาน ส่วนใครที่ต้องการผ่อนคลายอาจเลือกเก้าอี้พักผ่อนที่เป็น Zero Gravity Chair ช่วยกระจายน้ำหนักตัวอย่างสมดุล ทำให้รู้สึกเหมือนลอยอยู่ในอากาศ ลดแรงกดทับบริเวณหลังได้
4. เลือกเก้าอี้ที่นุ่ม สบาย
เก้าอี้นั่งสบาย ไม่ปวดหลัง ต้องมีเบาะที่นุ่มพอดี ไม่แข็งเกินไปจนนั่งแล้วเจ็บ แต่ก็ไม่นุ่มเกินไปจนทรุดตัวง่าย เบาะควรรองรับน้ำหนักได้ดีและคืนตัวได้ดี ส่วนผ้าหุ้มก็สำคัญไม่แพ้กัน ควรเลือกแบบที่ระบายอากาศได้ดี จะได้ไม่ร้อนอึดอัดหรือเหงื่อออกตอนนั่งนาน ๆ โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศร้อน
5. เลือกเก้าอี้ที่แข็งแรง
เรื่องความทนทานก็สำคัญมาก เก้าอี้แก้ปวดหลังที่ดีต้องมีโครงสร้างแข็งแรงและมั่นคง โครงสร้างเก้าอี้ควรทำจากวัสดุที่คงทนและมีคุณภาพสูง เพื่อให้ใช้งานได้ยาวนานโดยไม่พังง่าย ๆ
แนะนำ 10 เก้าอี้แก้ปวดหลัง นั่งได้นาน ลดอาการปวดเมื่อยได้จริง

รู้วิธีเลือกกันแล้ว ตอนนี้มาดูกันว่ามีเก้าอี้รุ่นไหนบ้างที่น่าสนใจและจะช่วยแก้ปัญหาปวดหลังได้ นี่คือ 10 เก้าอี้แก้ปวดหลังรุ่นเด็ดที่ Ollu คัดมาให้ พร้อมข้อมูลครบถ้วนให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
1. เก้าอี้แก้ปวดหลัง Ollu Thailand รุ่น FLOW
เก้าอี้แก้ปวดหลังจาก Ollu Thailand รุ่น FLOW ไม่ใช่แค่เก้าอี้ธรรมดา แต่ออกแบบมาเพื่อการพักผ่อนและฟื้นฟูร่างกายอย่างแท้จริงด้วย 6 โหมดพิเศษ ดังนี้
- ZERO GRAVITY MODE : ท่าพักผ่อนสุดล้ำที่ได้แรงบันดาลใจจากท่านั่งของนักบินอวกาศ ช่วยกระจายน้ำหนักอย่างสมดุล ลดแรงกดทับที่กระดูกสันหลัง ข้อต่อ และกล้ามเนื้อ ทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น คลายความเมื่อยล้าหลังกิจกรรมหนัก และช่วยให้รู้สึกเบาสบายเหมือนลอยได้
- V MODE : ท่าผ่อนคลายกล้ามเนื้อขาและหลังส่วนเอวที่คล้ายกับท่าโยคะ “เรือ” ช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่นให้กับกระดูกสันหลัง และคลายความตึงของกล้ามเนื้อหลังจากการนั่งนาน ๆ เหมาะสำหรับการวอร์มอัปหรือผ่อนคลายขาที่เดินมายาวนาน
- HARMONY MODE : ท่าพักผ่อนที่ยกศีรษะสูงขึ้นเล็กน้อย เป็นมุมที่สบายที่สุดสำหรับการอ่านหนังสือ ดูทีวี หรือพูดคุย นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันกรดไหลย้อน และเปิดทางเดินหายใจ ช่วยให้หายใจสะดวกและราบรื่นยิ่งขึ้น
- BRAIN BOOST MODE : สุดยอดท่าบำบัดที่ให้ศีรษะอยู่ต่ำกว่าร่างกายเล็กน้อยเพื่อส่งเสริมการไหลเวียนโลหิตไปยังสมอง ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้อย่างสมดุล ช่วยลดภาระหัวใจ และทำให้รู้สึกสบายตัว หลับง่ายขึ้น เหมือนได้ทำท่าโยคะ “ศีรษะอาสนะ”
- DEEP REST MODE : ท่านอนราบขนานกับพื้นเต็มรูปแบบ เป็นเก้าอี้ปรับนอนที่ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายอย่างล้ำลึก จัดแนวกระดูกสันหลังให้ตรง ลดแรงกดทับบริเวณคอและหลังได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับการพักผ่อนระหว่างวัน และยังช่วยส่งเสริมให้การนอนหลับมีคุณภาพมากขึ้น
- FLEXI MODE : ท่ายืดหลังที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ช่วยเสริมความสมดุลของร่างกายและช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อบริเวณกระดูกสันหลัง ด้วยการยืดหลังให้แผ่ออกและชูแขนขนานศีรษะ ทำให้เพิ่มความยืดหยุ่นของกระดูกสันหลังส่วนกลาง ลดความเสี่ยงของอาการหลังค่อม และคลายความเมื่อยล้าจากความตึงเครียดในการนั่งทำงาน
2. เก้าอี้แก้ปวดหลัง Bewell รุ่น Enfold
เก้าอี้นั่งทํางาน นั่งแล้วไม่ปวดหลัง มาพร้อม Lumbar Support แบบปรับได้และที่วางแขน ให้การซัปพอร์ตที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างยาวนาน วัสดุตาข่ายระบายอากาศได้ดี นั่งแล้วไม่ร้อน
3. เก้าอี้แก้ปวดหลัง Adam รุ่น Dot2 Ergo Chair Gravity
เก้าอี้ที่มีพนักพิงรูปทรง S-Shape เพื่อรองรับแนวโค้งของหลังอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยจัดระเบียบให้หลังตรง ท่านั่งถูกต้อง มาพร้อมกับผ้า Aero Flow Mesh คุณภาพเยี่ยมที่ช่วยลดกลิ่นเหงื่อ เพิ่มการไหลเวียนของอากาศ
4. เก้าอี้แก้ปวดหลัง ERGOTREND รุ่น Malmo
เน้นความยืดหยุ่นในการปรับแต่งอย่างเหนือชั้น เก้าอี้รุ่นนี้ปรับทุกส่วนได้แบบละเอียด ทั้งที่รองรับหลัง ที่วางแขน ไปจนถึงการปรับความหนืดของการเอนพนักพิงหลัง ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเก้าอี้เกิดมาเพื่อรองรับสรีระของผู้นั่งแต่ละคนอย่างลงตัว
5. เก้าอี้แก้ปวดหลัง MODENA รุ่น Anya
เก้าอี้ทํางานแก้ปวดหลังที่ออกแบบมาตามหลัก Ergonomic มี Lumbar Support ที่ปรับได้ และที่พักศีรษะที่ช่วยรองรับคอได้อย่างลงตัว เหมาะกับคนที่ต้องนั่งนาน ๆ และต้องการการซัปพอร์ตสูงสุด
6. เก้าอี้แก้ปวดหลัง FURRADEC รุ่น Harmony
สามารถปรับเอนได้อัตโนมัติถึง 125 องศา ด้วยระบบ Synchronized Tilting Mechanism พนักพิงมีโครงสร้างที่ช่วยโอบรับหลัง ทำให้เก้าอี้ตัวนี้เป็นที่ถูกใจของใครหลาย ๆ คน รองรับสรีระคนทุกวัยได้อย่างแท้จริง
7. เก้าอี้แก้ปวดหลัง FURDINI รุ่น Friendly
เก้าอี้ Recliner ไฟฟ้าที่เน้นความนุ่มสบายและความสะดวกในการใช้งาน เหมาะมากสำหรับผู้ที่กำลังมองหาเก้าอี้นั่งสบายเพื่อผู้สูงอายุที่ใช้งานง่ายและลุกนั่งไม่ลำบาก มาพร้อมเบาะนั่งระบบพ็อกเกตสปริงที่รองรับสรีระดีเยี่ยม
8. เก้าอี้แก้ปวดหลัง RESTER รุ่น Nova
เก้าอี้รุ่นนี้เป็นเก้าอี้นวดไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดที่ช่วยบำบัดอาการปวดเมื่อยเฉพาะจุดได้ดี มีโปรแกรมนวดอัตโนมัติช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ลดความเมื่อยล้าได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อบริเวณคอ หลัง ไหล่ เอว น่อง หรือเท้า ก็เพิ่มความสบายได้
9. เก้าอี้แก้ปวดหลัง Kris รุ่น S320
เก้าอี้เพื่อสุขภาพที่ให้ความรู้สึกสบายและซัปพอร์ตดีในราคาที่เข้าถึงได้ มีดีไซน์หลากหลายและแตกต่าง พนักพิงปรับระดับได้ จัดเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่มองหาเก้าอี้แก้ปวดหลังราคาย่อมเยาแต่มีคุณภาพดี
10. เก้าอี้แก้ปวดหลัง HARA Chair รุ่น Nietzsche 2
โดดเด่นด้วยนวัตกรรมพนักพิงหลังแบบ 2 ชิ้น (DUO BACK) ที่ช่วยกระจายน้ำหนักบริเวณก้นกบได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้นั่งได้นานโดยไม่รู้สึกปวดตึง เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่จริงจังเรื่องสุขภาพหลัง
เก้าอี้แก้ปวดหลัง ที่สุดแห่งการพักผ่อนเพื่อสุขภาพที่ดี
การเลือกเก้าอี้แก้ปวดหลังคือการตัดสินใจครั้งสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตในทุก ๆ วัน เก้าอี้ที่ดีจะช่วยให้ลืมอาการปวดเมื่อยสะสม ทำให้มีพลังในการใช้ชีวิต และไม่พลาดโอกาสดี ๆ เพราะมีอาการปวดหลังมากวนใจ
ใครที่กำลังมองหาเก้าอี้พักผ่อนที่ให้มากกว่าแค่ความสบาย Ollu Thailand รุ่น FLOW คือคำตอบที่ลงตัว ด้วย 6 โหมดการใช้งานที่ตอบโจทย์การพักผ่อนอย่างครอบคลุม อีกทั้งไม่ใช่แค่เก้าอี้ปรับนอนธรรมดา แต่มีนวัตกรรมผู้สูงอายุที่สามารถดูแลสุขภาพได้ตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน พักผ่อน หรือฟื้นฟูร่างกาย
ติดต่อสอบถาม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่
- Website : https://olluthailand.com/
- Line : @olluthailand
- Facebook : olluthailand
- Instagram : olluthailand
- Tel : 02-7399570
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเก้าอี้แก้ปวดหลัง
เก้าอี้แก้ปวดหลัง ควรเลือกซื้ออย่างไรไม่ให้เสี่ยง?
หากมองหาเก้าอี้แก้ปวดหลังราคาถูก สิ่งสำคัญที่ต้องเน้นคือคุณภาพของโครงสร้าง อย่าเน้นแค่ความนุ่ม ให้ตรวจสอบความแข็งแรงของฐานและกลไกการปรับเอน และแม้จะเป็นเก้าอี้นั่งทํางานราคาประหยัดก็ควรมีฟังก์ชัน Lumbar Support ที่ช่วยรองรับหลังส่วนล่าง และช่วยให้นั่งในท่าที่ปลอดภัยต่อสุขภาพหลัง
เก้าอี้หลังตรงหรือเก้าอี้เอนหลัง แบบไหนดีกว่าสำหรับการลดอาการปวด?
การนั่งตัวตรงแบบเกร็ง ๆ มักเป็นสาเหตุให้ปวดหลังเพราะกล้ามเนื้อต้องทำงานหนักเพื่อทรงตัว เก้าอี้แก้ปวดหลังที่เหมาะที่สุดคือเก้าอี้ที่ช่วยให้กระดูกสันหลังอยู่ในแนวโค้ง S-Curve ที่เป็นธรรมชาติ หากเป็นเก้าอี้ปรับนอนแบบ Zero Gravity Chair ก็จะดีกว่า เพราะการเอนหลังเล็กน้อยในท่าไร้น้ำหนักเป็นท่าที่ช่วยลดแรงกดทับของหมอนรองกระดูกได้ดีที่สุด ทำให้นั่งได้นานโดยไม่ปวดหลัง
เก้าอี้แบบไหนนั่งแล้วไม่ปวดหลัง?
เก้าอี้แก้ปวดหลังต้องเป็นเก้าอี้ที่ออกแบบตามหลัก Ergonomic มีพนักพิงโค้งรับรูปร่างของกระดูกสันหลังตามธรรมชาติ ควรปรับระดับได้หลากหลาย ทั้งความสูงของที่นั่ง มุมเอนของพนักพิง และที่วางแขน นอกจากนี้ เบาะนั่งควรนุ่มพอดี ไม่แข็งจนเกินไปหรือนุ่มจนทรุดตัว และระบายอากาศได้ดีเพื่อป้องกันความอึดอัด
