รู้หรือไม่ว่าแค่การเปลี่ยน “ท่านอน” ก็ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายมากกว่าที่คิด โดยเฉพาะหลายคนอาจสงสัยว่านอนตะแคงข้างไหนดี ถึงจะช่วยให้หลับสบายและไม่ปวดเมื่อยในตอนเช้า เพราะจริง ๆ แล้วท่านอนที่ถูกต้องไม่ได้มีแค่เพื่อความสบาย แต่ยังช่วยลดอาการปวดหลัง ป้องกันกรดไหลย้อน และดูแลหัวใจได้อีกด้วย บทความนี้ Ollu Thailand จะพาไปไขคำตอบว่าควรนอนตะแคงข้างไหนดี ถึงจะเหมาะกับสุขภาพมากที่สุด พร้อมแนะนำวิธีปรับท่านอนเพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่ทุกคืน
Key Takeaways
- นอนตะแคงข้างไหนดี คำตอบคือการนอนตะแคงซ้ายจะมีประโยชน์มากที่สุด ทั้งช่วยย่อยอาหาร การไหลเวียนเลือด และลดกรดไหลย้อน
- ท่านอนตะแคงที่ถูกต้องควรจัดแนวลำตัวให้ตรง ใช้หมอนรองศีรษะและหมอนข้าง เพื่อลดอาการปวดเมื่อยและจัดสรีระ
- การนอนตะแคงช่วยลดปัญหาสุขภาพ เช่น ลดการกรน ป้องกันภาวะหยุดหายใจขณะหลับ และดีต่อสตรีมีครรภ์
ไขข้อข้องใจ นอนตะแคงข้างไหนดี?

นอนตะแคงข้างไหนดี? การนอนตะแคงไปทางซ้ายมักถูกแนะนำว่าเป็นท่านอนที่ดีที่สุดสำหรับคนส่วนใหญ่ เนื่องจากช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดีขึ้น ลดแรงกดบริเวณหัวใจ และยังช่วยให้กรดในกระเพาะไม่ไหลย้อนขึ้นมาที่หลอดอาหาร ทำให้หายใจสะดวก หลับสบาย และเหมาะกับคนที่มักมีปัญหาเกี่ยวกับการย่อยอาหารหรือนอนกรนเป็นประจำ
อย่างไรก็ตาม ยังมีท่านอน อื่น ๆ ที่ดีต่อสุขภาพเช่นกัน ได้แก่
- นอนหงาย : เหมาะกับผู้ที่ต้องการจัดแนวกระดูกสันหลังให้ตรง ลดแรงกดทับบริเวณไหล่และสะโพก แต่ไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหากรนหรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
- นอนตะแคงขวา : ช่วยให้หัวใจสูบฉีดเลือดได้ดี เหมาะกับผู้ที่มักมีอาการปวดหลังเล็กน้อย เพราะช่วยลดแรงกดทับของร่างกายได้บางส่วน
- นอนขดตัว : ถึงแม้ว่าการนอนขดตัวจะรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย แต่การงอหลังและเข่ามากเกินไปอาจทำให้กล้ามเนื้อหลังตึงและปวดเมื่อยในตอนเช้า
- นอนคว่ำ : ควรหลีกเลี่ยง เพราะทำให้หายใจไม่สะดวกและเพิ่มแรงกดต่อกระดูกสันหลังส่วนล่าง
- นอนกึ่งเอนบนโซฟา : หากเลือกที่รองรับแนวกระดูกสันหลังตามหลัก Ergonomic จะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและลดอาการปวดเมื่อยได้ดี
นอกจากนี้ การเลือกนอนท่าไหนไม่ให้ไอ หรือ นอนท่าไหนไม่กรน ก็มีส่วนสำคัญ เช่น การนอนตะแคงซ้ายสามารถช่วยลดอาการเหล่านี้ได้ เพราะช่วยเปิดทางเดินหายใจให้โล่งขึ้นและลดแรงกดต่อหน้าอก ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมหลายคนที่สงสัยว่านอนตะแคงข้างไหนดีที่สุด คำตอบจึงมักเป็น “ซ้าย” มากกว่า “ขวา” แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับสรีระและความสบายของแต่ละบุคคล
เพื่อเสริมการพักผ่อนให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น Ollu Thailand ขอแนะนำ FLOW เก้าอี้พักผ่อน Zero Gravity Chair โซฟาปรับนอน 1 ที่นั่งที่ออกแบบตามหลัก Ergonomic พร้อมโหมด DEEP REST MODE ช่วยจัดแนวกระดูกสันหลังให้ตรง กระจายน้ำหนักได้อย่างสมดุล และรองรับท่านอนได้อย่างพอดี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักร่างกายให้คลายความเมื่อยล้าได้เต็มที่ทุกช่วงเวลา
นอนตะแคงอย่างไรให้ถูกวิธี
หลังจากรู้กันไปแล้วว่านอนตะแคงข้างไหนดี ต่อไปมาดูเทคนิคการนอนตะแคงที่ถูกต้องที่ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและลดอาการปวดเมื่อยได้ เพราะการเลือกท่านอนที่ถูกต้อง ไม่เพียงช่วยให้หลับสบายเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อการไหลเวียนเลือดและการดูแลสุขภาพโดยรวมด้วย โดยท่านอนตะแคงที่ถูกต้องมีดังนี้
- จัดแนวลำตัวให้ตรง : ควรจัดให้ไหล่และสะโพกอยู่ในแนวขนานกัน ไม่บิดเอี้ยวตัวไปด้านหน้าหรือด้านหลังมากเกินไป เพื่อรักษากระดูกสันหลังให้อยู่ในแนวธรรมชาติ
- ใช้หมอนรองศีรษะที่เหมาะสม : เลือกหมอนที่สามารถรองรับช่องว่างระหว่างศีรษะและไหล่ได้พอดี ไม่สูงหรือต่ำเกินไป เพื่อให้กระดูกสันหลังส่วนคออยู่ในแนวเดียวกับกระดูกสันหลังส่วนอื่น ๆ
- ใช้หมอนข้างหรือหมอนรองเข่า : สอดหมอนข้างหรือหมอนเล็ก ๆ ระหว่างเข่า เพื่อช่วยจัดตำแหน่งสะโพกและหลังส่วนล่างให้อยู่ในแนวที่เหมาะสม และลดแรงกดทับที่ข้อต่อสะโพก
- วางแขนในตำแหน่งที่สบาย : ควรวางแขนไว้ด้านหน้าลำตัว ไม่ควรวางแขนไว้ใต้ศีรษะหรือลำตัว เพราะอาจทำให้เกิดอาการชาหรือปวดเมื่อยได้
- สลับข้างการนอน : หากเป็นไปได้ควรพยายามสลับข้างการนอนเป็นระยะ เพื่อลดการกดทับที่ไหล่และสะโพกด้านใดด้านหนึ่งเป็นเวลานาน ซึ่งจะช่วยป้องกันอาการปวดเมื่อย
- เลือกที่นอนและหมอนที่เหมาะสม : ที่นอนควรมีความแน่นพอดี ไม่นุ่มหรือแข็งจนเกินไป เพื่อรองรับสรีระได้ดี และหมอนควรมีขนาดที่พอเหมาะกับการนอนตะแคงเพื่อความสบายและรองรับสรีระของคุณ
ประโยชน์ของการนอนตะแคง มีอะไรบ้าง?

การรู้ว่านอนตะแคงข้างไหนดีไม่ได้ช่วยแค่ให้หลับสบายขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อสุขภาพในหลายด้าน ทั้งระบบหายใจ การไหลเวียนโลหิต ไปจนถึงสุขภาพสมองและหัวใจ การเลือกท่านอนที่เหมาะสมจึงถือเป็นพื้นฐานของการดูแลสุขภาพที่ดี และส่งเสริมการพักผ่อนให้มีคุณภาพมากขึ้น โดยประโยชน์ของการนอนตะแคง มีดังนี้
1. ลดโอกาสนอนกรน
สำหรับคนที่นอนกรน การเลือกท่านอนที่สบายที่สุดอย่างการนอนตะแคง จะช่วยให้ช่องทางเดินหายใจเปิดโล่ง ลิ้นไม่ตกไปขวางทางลม สามารถหายใจได้สะดวก การนอนตะแคงขวาหรือซ้ายล้วนช่วยบรรเทาอาการนี้ได้ โดยเฉพาะคนที่ชอบนอนหงาย ควรปรับเปลี่ยนท่านอนเป็นการนอนตะแคงเพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่
2. ลดอาการปวดหลัง
นอนตะแคงข้างไหนดีสำหรับคนปวดหลัง แนะนำให้นอนตะแคงข้างซ้ายเพราะช่วยจัดแนวกระดูกสันหลังให้ตรง และลดแรงกดทับบริเวณเอวและสะโพก นอกจากนี้ การพักผ่อนบนโซฟาหรือเก้าอี้ผู้สูงอายุที่ออกแบบตามหลัก Ergonomic ก็ช่วยลดแรงกดจุดเดิม ๆ ได้ดี จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะกับผู้มีอาการปวดหลังเรื้อรัง
3. ป้องกันการเกิดกรดไหลย้อน
ถ้าหากถามว่านอนตะแคงข้างไหนดี สำหรับคนที่มีปัญหากรดไหลย้อน คำตอบคือการนอนตะแคงซ้าย เพราะช่วยให้กระเพาะอาหารอยู่ต่ำกว่าหลอดอาหารและลดการไหลย้อนของกรด ซึ่งต่างจากนอนตะแคงขวาที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่ออาการแสบร้อนกลางอก ถือเป็นหนึ่งในการนอนที่ถูกต้องที่ช่วยป้องกันการรบกวนการนอนได้ดี
4. ส่งเสริมการทำงานของสมอง
การนอนตะแคงช่วยให้ระบบไหลเวียนน้ำหล่อสมองทำงานได้ดีขึ้น ทำให้สมองขับของเสียออกได้มีประสิทธิภาพมากกว่าท่านอนหงายที่ถูกต้องเสียอีก นอกจากนี้ยังช่วยให้เลือดไหลเวียนสะดวก ลดอาการมึนหรือหนักศีรษะเมื่อตื่นนอน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพสมองและส่งเสริมแนวทาง Longevity ในระยะยาว
5. ช่วยให้หัวใจสูบฉีดเลือดได้ดีขึ้น
สำหรับคนที่สงสัยว่านอนตะแคงซ้ายแล้วเจ็บหัวใจเกิดจากอะไร จริง ๆ แล้วสำหรับผู้ที่มีโรคหัวใจ การนอนตะแคงซ้ายอาจทำให้รู้สึกแน่นหน้าอกจากแรงกดบริเวณหัวใจได้ แนะนำให้ลองนอนตะแคงขวาแทน ซึ่งเป็นท่าที่หัวใจไม่ถูกกดทับและช่วยให้เลือดสูบฉีดได้ดีขึ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการพักผ่อนโดยไม่กระทบต่อการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิต
6. ป้องกันภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
สำหรับผู้ที่มีปัญหาหยุดหายใจขณะหลับ การรู้ว่านอนตะแคงข้างไหนดีมีความสำคัญมาก เพราะท่านอนนี้ช่วยให้โครงสร้างคอและช่องปากเปิดโล่ง ทำให้หายใจได้สม่ำเสมอ ไม่เกิดการอุดกั้นทางเดินลม การเลือกเก้าอี้นวดบำบัด หรือโซฟาที่ปรับเอนได้ในองศาที่พอดี ยังเป็นอีกตัวช่วยให้ร่างกายได้พักในท่าที่ลดแรงกดบนหน้าอกได้ดีขึ้น
7. ส่งเสริมการนอนหลับของสตรีมีครรภ์
คุณแม่ตั้งครรภ์แนะนำให้นอนตะแคงซ้าย ซึ่งจะช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงทารกได้ดีกว่าท่านอนอื่น ๆ เช่น การนอนขดตัวเล็กน้อย ช่วยลดแรงกดต่อเส้นเลือดดำใหญ่ที่อยู่บริเวณหลัง และยังช่วยลดอาการปวดหลังและบวมน้ำได้อีกด้วย
8. บำรุงระบบน้ำเหลืองในร่างกาย
การนอนท่าตะแคงซ้ายมีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบน้ำเหลือง เนื่องจากท่อน้ำเหลืองหลักของร่างกายอยู่ฝั่งซ้าย การนอนตะแคงจึงช่วยให้ของเสียและเซลล์เก่าถูกลำเลียงออกได้ดีขึ้น ส่งผลให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นหลังตื่นนอน และยังเป็นท่าที่ช่วยลดอาการบวมหรืออักเสบได้ด้วยเหมือนกัน
นอนตะแคงข้างไหนดี? เคล็ดลับนอนสบายและพักผ่อนลึกเหมือนลอยอยู่ในอวกาศกับเก้าอี้ FLOW
การรู้ว่านอนตะแคงข้างไหนดีไม่เพียงแค่ช่วยให้หลับสบาย แต่ยังมีส่วนช่วยลดอาการปวดเมื่อยและเสริมสุขภาพโดยรวมได้ด้วย โดยเฉพาะการนอนตะแคงซ้ายซึ่งถือเป็นหนึ่งในท่าการนอนที่ถูกต้องที่ช่วยให้ระบบต่าง ๆ ของร่างกายทำงานได้ดียิ่งขึ้น
Ollu Thailand ขอแนะนำเก้าอี้พักผ่อน FLOW ซึ่งเป็นเก้าอี้ Zero Gravity Chair ที่ได้แรงบันดาลใจจากท่านั่งของนักบินอวกาศ สามารถรองรับการกระจายน้ำหนักได้เป็นอย่างดี ลดแรงกด และโอบรับแนวกระดูกสันหลังอย่างเป็นธรรมชาติ เก้าอี้ FLOW มีทั้งหมด 6 โหมด ได้แก่ Deep Rest, Zero Gravity, Harmony, Brain Boost, V Mode และ Flexi Mode มอบประสบการณ์พักผ่อนขั้นสูงสุดที่หาไม่ได้จากโซฟาทั่วไป ช่วยให้สัมผัสความสบายเหมือนอยู่ในภาวะไร้แรงโน้มถ่วง
ติดต่อสอบถาม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่
- Website : https://olluthailand.com/
- Line : @olluthailand
- Facebook : olluthailand
- Instagram : olluthailand
- Tel : 02-7399570
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการนอนตะแคง
นอนท่าไหนดีที่สุด
นอนท่าไหนดีที่สุด? โดยทั่วไปแล้วการนอนตะแคงซ้ายถือเป็นท่านอนที่ดีที่สุดเพราะช่วยให้เลือดไหลเวียนดี ระบบย่อยอาหารทำงานได้เต็มที่ และลดแรงกดที่หัวใจ หากมีอาการปวดเมื่อยหลังอาจปรับหมอนรองเข่าหรือดูเพิ่มเติมได้ที่ท่านอนแก้ปวดหลัง
นอนท่าไหนหายใจสะดวก
นอนท่าไหนหายใจสะดวก แนะนำเป็นท่านอนตะแคงขวา เพราะช่วยเปิดทางเดินหายใจ ลดการอุดกั้นของลมหายใจ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหายใจติดขัดหรือนอนกรนเป็นบางครั้ง
นอนท่าไหนไม่กรน
ผู้ที่ต้องการลดอาการกรนควรนอนตะแคงมากกว่านอนหงาย เพราะท่านี้ช่วยให้ลิ้นไม่ตกไปอุดทางเดินหายใจ และยังช่วยให้หายใจโล่งขึ้น หากต้องการคลายความตึงของกล้ามเนื้อ ควรเสริมด้วยการนวดผ่อนคลายเป็นประจำด้วย
