หลายคนอาจเคยรู้สึกอ่อนล้า อ่อนเพลีย หรือไม่มีแรงบันดาลใจในการทำสิ่งต่าง ๆ ในแต่ละวัน นั่นเป็นสัญญาณที่ร่างกายและจิตใจกำลังบอกให้คุณรู้ว่าถึงเวลาต้อง “พักผ่อน” แล้วนั่นเอง การพักผ่อนให้เพียงพอไม่ใช่เรื่องของการอยู่เฉย ๆ หรือการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเท่านั้น แต่คือศิลปะในการสร้างสมดุลให้กับชีวิต เพื่อให้ร่างกายและสมองได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่และพร้อมกลับมาลุยต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
เพราะการพักผ่อนที่ดีที่สุดคือการเข้าใจว่าร่างกายของเราต้องการอะไร บทความนี้จึงจะชวนคุณมาทำความเข้าใจความหมายของการพักผ่อนและวิธีการที่ถูกต้อง เพื่อช่วยให้คุณสามารถกลับมามีชีวิตที่สดใสและมีพลังได้มากขึ้น
Key Takeaways
- การพักผ่อนคือกระบวนการฟื้นฟูพลังงานทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่แค่การนอนเท่านั้น
- วิธีพักผ่อนกายมีตั้งแต่การนอนหลับให้เพียงพอ ออกกำลังกาย ไปจนถึงการใช้อุปกรณ์เสริมช่วยสนับสนุนสุขภาพ
- การพักผ่อนใจ ได้แก่ การพักจิตใจ พักจากสังคม พักอารมณ์ พักประสาทสัมผัส และพักจิตวิญญาณ
- การพักผ่อนอย่างถูกต้องช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดความเครียด และส่งเสริมสุขภาพโดยรวม
การพักผ่อน คืออะไร
การพักผ่อน คือการหยุดพักจากภาระหน้าที่หรือกิจกรรมที่ทำอยู่เป็นประจำ เพื่อให้ร่างกายและจิตใจได้มีโอกาสฟื้นตัวและพักหายเหนื่อยจากความเครียดและความอ่อนล้าที่สะสม โดยการพักผ่อนหมายถึงการสร้างสมดุลให้กับชีวิตและสุขภาพ ทำให้ร่างกายที่ต้องการการพักผ่อนได้ซ่อมแซมและฟื้นฟูส่วนที่สึกหรอ รวมถึงเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ จึงสามารถตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นอีกครั้ง
รวม 10 วิธีการพักผ่อนกาย ทำได้อย่างไรบ้าง

การพักผ่อนให้เพียงพอถือเป็นรากฐานสำคัญในการรักษาทั้งสุขภาพและความสมดุลของชีวิต เมื่อร่างกายได้นอนพักผ่อนก็จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และลดความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการทำงานหนักเกินไป ต่อไปนี้คือ 10 วิธีการพักผ่อนร่างกายที่สามารถปฏิบัติได้ง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน
1. นอนหลับให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นวิธีพื้นฐานที่สำคัญที่สุดในการพักผ่อน ผู้ใหญ่ควรนอนหลับวันละ 7-9 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายและสมองได้ซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเอง รวมถึงการนอนให้เพียงพอจะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ปรับสมดุลฮอร์โมน และเพิ่มความจำ การเลือกท่านอนที่เหมาะสมร่วมกับการนอนหลับให้เพียงพอยังช่วยปรับกระดูกสันหลังและทำให้หายใจได้ดีขึ้นร่วมด้วย
2. ตื่นให้ตรงตามนาฬิกาปลุก
การตื่นให้ตรงเวลาทุกวันช่วยปรับการนอนหลับให้สม่ำเสมอ ทำให้ร่างกายรู้ว่าเมื่อไรควรตื่น และเมื่อไรควรนอน การมีตารางนอนที่แน่นอนจะช่วยให้คุณหลับง่ายขึ้นและมีพลังงานมากขึ้นในตอนเช้า นอกจากนี้ยังช่วยให้ระบบฮอร์โมนทำงานได้ดีขึ้น
3. ฝึกยืดเส้นยืดสายยามเช้า
การยืดเส้นยืดสายหลังตื่นนอนช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด คลายกล้ามเนื้อที่ตึงจากการทำกิจกรรมในวันก่อนหน้า และเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับกิจกรรมในวันใหม่ การยืดเส้นยืดสายเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงการบาดเจ็บ ปรับปรุงความยืดหยุ่นของร่างกาย และช่วยให้รู้สึกสดชื่น
4. ใช้เวลาวันหยุดให้เต็มที่
วันหยุดเป็นเวลาพักผ่อนที่มีค่า ควรใช้เวลานี้ทำในสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ ดูหนัง ท่องเที่ยว หรือใช้เวลากับครอบครัว หลีกเลี่ยงการทำงานหรือคิดเรื่องงานในวันหยุด เพื่อให้จิตใจได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
5. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายเป็นประจำช่วยเพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย ปรับปรุงการไหลเวียนเลือด และช่วยให้นอนหลับสนิทขึ้น ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายหนักมาก เริ่มจากการเดิน วิ่งเบา ๆ หรือว่ายน้ำ 30 นาทีต่อวัน 3-5 วันต่อสัปดาห์ก็เพียงพอแล้ว ใช้นวัตกรรมสุขภาพที่ช่วยส่งเสริมการออกกำลังกายก็จะสามารถช่วยได้เพิ่มขึ้น
6. กินอาหารเช้าให้ตรงเวลา
อาหารเช้าเป็นมื้อสำคัญที่ให้พลังงานแก่ร่างกายในการเริ่มต้นวันใหม่ การกินอาหารเช้าให้ตรงเวลาทุกวันช่วยปรับระบบเผาผลาญให้ทำงานได้ดี ควรเลือกอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ธัญพืช ผลไม้ โปรตีนจากไข่หรือนม เพื่อให้ได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน
7. มองหากิจกรรมใหม่ ๆ ลดความเบื่อหน่าย
ความเบื่อหน่ายจากการทำสิ่งเดิม ๆ ซ้ำ ๆ อาจทำให้เกิดความเครียดโดยไม่รู้ตัว การลองทำกิจกรรมใหม่ ๆ เช่น เรียนทำอาหาร เรียนดนตรี หรือทำงานศิลปะ จะช่วยกระตุ้นสมองในมิติใหม่และทำให้รู้สึกสดชื่น นอกจากนี้ยังช่วยพัฒนาทักษะใหม่และเพิ่มความมั่นใจในตัวเองได้อีกด้วย
8. พักสายตาจากการทำงานหนัก
ในยุคดิจิทัลที่เราใช้สายตามองหน้าจอคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ หรือแท็บเล็ตเป็นเวลานาน จะทำให้สายตาเมื่อยล้าและอาจเกิดปัญหาสุขภาพตาได้ ฉะนั้น การพักสายตาทุก 20-30 นาที โดยมองไปที่จุดไกล ๆ หรือหลับตาพักผ่อน 1-2 นาที จะช่วยคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อตา รวมถึงการปรับความสว่างของหน้าจอให้เหมาะสมก็เป็นวิธีช่วยลดการเมื่อยล้าของสายตาได้
9. หลีกเลี่ยงสิ่งที่เป็นโทษ
การหลีกเลี่ยงสิ่งที่เป็นโทษต่อร่างกาย เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป หรือการกินอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง จะช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สิ่งเหล่านี้อาจให้ความรู้สึกผ่อนคลายในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ในระยะยาวจะทำให้ร่างกายต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อกำจัดสารพิษ
10. หันมาใช้ของใช้ที่ส่งเสริมสุขภาพ
การเลือกใช้ของใช้ที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพและการพักผ่อน เช่น เก้าอี้พักผ่อนที่ออกแบบตามหลัก Ergonomic จะช่วยลดอาการปวดหลัง ปวดคอ และช่วยให้การนั่งหรือนอนพักผ่อนสะดวกสบายมากขึ้น หรือเก้าอี้ Recliner ที่มีคุณภาพจะช่วยปรับท่านั่งและท่านอนให้เหมาะสมกับรูปร่างของแต่ละคน การเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มคุณภาพการพักผ่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รวม 5 วิธีการพักผ่อนใจ เพื่อสุขภาพจิตที่ดีขึ้น

การพักผ่อนใจเป็นสิ่งจำเป็นไม่แพ้การพักผ่อนร่างกาย เพราะจิตใจที่เหนื่อยล้าจะส่งผลต่อสุขภาพกายภาพและการใช้ชีวิตประจำวัน การเข้าใจและปฏิบัติตามวิธีการพักผ่อนใจที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่น มีความสุข และพร้อมเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. พักผ่อนทางจิตใจ (Mental Rest)
การพักผ่อนทางจิตใจคือการให้สมองหยุดคิดหนักและปล่อยให้จิตใจได้ผ่อนคลาย การทำสมาธิ การฟังเพลงเบา ๆ การนั่งเงียบ ๆ โดยไม่คิดอะไร หรือการทำกิจกรรมที่ไม่ต้องใช้สมองมาก เช่น การถักไหมพรม การวาดภาพ จะช่วยให้จิตใจได้พักจากการคิดวิเคราะห์และตัดสินใจต่าง ๆ หรือการเขียนบันทึกก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยปลดปล่อยความคิดที่สะสมในใจได้เช่นกัน
2. พักผ่อนจากสังคม (Social Rest)
การใช้เวลาอยู่กับคนอื่นตลอดเวลาอาจทำให้เกิดความเหนื่อยล้าทางจิตใจ การพักผ่อนจากสังคมคือการให้เวลาตัวเองอยู่คนเดียว ไม่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น การอ่านหนังสือคนเดียว ดูหนัง ฟังเพลง หรือเดินเล่นคนเดียวในธรรมชาติ จะช่วยให้จิตใจได้ปรับสมดุลและกลับมามีพลังในการสร้างสัมพันธ์กับผู้อื่นต่อไป
3. พักผ่อนทางอารมณ์ (Emotional Rest)
การพักผ่อนทางอารมณ์คือการปล่อยให้ตัวเองได้แสดงความรู้สึกตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องเก็บกดหรือแสดงท่าทีที่ไม่ตรงกับความรู้สึกจริง การร้องไห้เมื่อเศร้า หัวเราะเมื่อมีความสุข หรือการแสดงอารมณ์ที่แท้จริงกับคนใกล้ชิด จะช่วยปลดปล่อยความตึงเครียดทางอารมณ์และทำให้จิตใจผ่อนคลาย
4. พักประสาทสัมผัส (Sensory Rest)
ปัจจุบันนี้ เราได้รับสิ่งกระตุ้นจากประสาทสัมผัสมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเสียงดัง แสงจ้า กลิ่นต่าง ๆ การพักประสาทสัมผัสคือการลดสิ่งกระตุ้นเหล่านี้ เช่น การอยู่ในห้องเงียบ ปิดไฟให้แสงนุ่มนวล หลีกเลี่ยงกลิ่นแรง หรือการหลับตาพักสายตา การพักประสาทสัมผัสจะช่วยให้ระบบประสาทได้พักผ่อนและกลับมามีความไวต่อสิ่งแวดล้อมได้ดีขึ้น
5. พักผ่อนจิตวิญญาณ (Spiritual Rest)
การพักผ่อนจิตวิญญาณคือการหาความหมายและจุดหมายในชีวิต การทำบุญ การสวดมนต์ การเข้าวัด การอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ หรือการทำกิจกรรมที่ทำให้รู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ใหญ่กว่า จะช่วยให้จิตวิญญาณได้รับการเติมเต็มและมีพลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไป
ประโยชน์ของการพักผ่อน มีอะไรบ้าง

การพักผ่อนให้เพียงพอมีประโยชน์มากมายต่อทั้งร่างกายและจิตใจ ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ เบาหวาน และโรคอื่น ๆ รวมถึงการพักผ่อนยังช่วยปรับปรุงความจำ เพิ่มความสามารถในการเรียนรู้ และเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนี้ยังช่วยปรับปรุงอารมณ์ และลดความเครียด ทำให้มีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
พักผ่อนอย่างล้ำลึกด้วยนวัตกรรมเก้าอี้สุขภาพจาก Ollu Thailand
การพักผ่อนที่มีประสิทธิภาพต้องอาศัยทั้งการปรับพฤติกรรมและการเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสม เราเข้าใจดีว่าการพักผ่อนแต่ละคนมีความต้องการที่แตกต่างกัน จึงได้นำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยส่งเสริมการพักผ่อนอย่างครบวงจร แล้วการวางแผนการพักผ่อนมีประโยชน์อย่างไร? คุณจะได้รับคำตอบหากเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อการพักผ่อนโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นการใช้อุปกรณ์เสริมที่ทันสมัยหรือการปรับปรุงพื้นที่พักผ่อนให้สอดคล้องกับแนวคิด Longevity เพื่อสุขภาพที่ยั่งยืน
การลงทุนในการพักผ่อนที่มีคุณภาพไม่ใช่เรื่องฟุ่มเฟือย แต่เป็นการลงทุนในสุขภาพและความสุขในระยะยาว Ollu Thailand จึงคัดสรรนวัตกรรมสุขภาพและเฟอร์นิเจอร์ที่ตอบโจทย์อย่างเก้าอี้ Recliner ที่ออกแบบตามหลัก Ergonomic เพื่อช่วยลดอาการเมื่อยล้าและทำให้การนั่งหรือนอนพักผ่อนเป็นเรื่องง่ายขึ้น เติมเต็มทุกช่วงเวลาพักผ่อนให้เป็นการฟื้นฟูร่างกายที่แท้จริง
ติดต่อสอบถาม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่
- Website : https://olluthailand.com/
- Line : @olluthailand
- Facebook : olluthailand
- Instagram : olluthailand
- Tel : 02-7399570
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการพักผ่อน
อยากพักผ่อนแต่นอนไม่หลับ ทำอย่างไร?
หากมีปัญหานอนไม่หลับ ควรปรับพฤติกรรมก่อนนอน เช่น หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟหรือใช้โทรศัพท์ก่อนนอน สร้างบรรยากาศในห้องนอนให้เหมาะสม อุณหภูมิเย็นสบาย แสงไฟนุ่มนวล ไม่มีเสียงรบกวน การทำกิจกรรมผ่อนคลายก่อนนอน เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลงเบา ๆ หรือทำสมาธิแบบง่าย ๆ จะช่วยให้หลับง่ายขึ้น
การพักผ่อนไม่เพียงพอมีผลเสียอย่างไร?
การพักผ่อนไม่เพียงพออาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพมากมาย เช่น ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เสี่ยงต่อโรคหัวใจ เบาหวาน โรคอ้วน ปัญหาสุขภาพจิต และความจำเสื่อม นอกจากนี้ยังส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน ความสัมพันธ์กับผู้อื่น และคุณภาพชีวิตโดยรวม
การใช้โทรศัพท์ก่อนนอนส่งผลกระทบต่อการพักผ่อนอย่างไร?
แสงสีฟ้าจากหน้าจอจะกดการหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนิน ทำให้เรานอนไม่หลับ ไม่สามารถผ่อนคลายได้ รวมถึงการเลื่อนดูโพสต์อย่างต่อเนื่องทำให้สมองติดอยู่ในสถานะกระตือรือร้น จึงควรหยุดใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนนอน และเปลี่ยนมาทำกิจกรรมผ่อนคลายแทน